นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณว่า ธปท.จะไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากปรับลดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ปกป้องเป้าหมายเงินเฟ้อในปัจจุบัน ขณะที่รัฐบาลเรียกร้องให้ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก รวมถึงปรับเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายเศรษฐพุฒิได้กล่าวเมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ที่กรุงวอชิงตันว่า "เนื่องจากเราเพิ่งปรับเปลี่ยน ผมคิดว่าบรรทัดฐานสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้นจะต้องค่อนข้างสูง" โดยเขากล่าวว่า การขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอตัวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ธปท.ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
เขาระบุเสริมว่า การดำเนินการในอนาคตจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มของเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงิน
ความเห็นของนายเศรษฐพุฒิบ่งชี้ว่า ธปท.จะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ขณะที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรยังคงผลักดันให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และปรับเป้าหมายเงินเฟ้อให้สูงขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
นายเศรษฐพุฒิซึ่งจะหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลังในช่วงปลายเดือนนี้เพื่อตกลงเกี่ยวกับเป้าหมายเงินเฟ้อของปีหน้ากล่าวว่า กรอบเงินเฟ้อในปัจจุบันยังรองรับเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยให้การคาดการณ์ด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่มั่นคงและทำให้ธปท.สามารถดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในระดับปานกลาง ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่า
"ถ้าคุณปรับเป้าหมายให้สูงขึ้น มันจะทำให้การคาดการณ์เพิ่มขึ้น และส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรด้วย" ผู้ว่าการธปท.กล่าว ขณะที่เขาอยู่ที่กรุงวอชิงตันเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก
นอกจากนี้ นายเศรษฐพุฒิยังได้ย้ำว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเป็นเพียงการ "ปรับเปลี่ยน" และเขาไม่คิดว่า เป็นจุดเริ่มต้นของวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่อง