ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐได้รวมตัวกันฟ้องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ (24 ธ.ค.) โดยกล่าวหาว่ากระบวนการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของเฟด มีความไม่โปร่งใสและขัดต่อกฎหมาย
ทั้งนี้ เฟดจัดการทดสอบภาวะวิกฤตประจำปีเพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร และเพื่อเป็นปัจจัยกำหนดฐานเงินทุนที่ธนาคารต้องกันสำรองไว้ รวมทั้งกำหนดขนาดของการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน โดยบททดสอบครอบคลุมถึงการประเมินว่า มีความปลอดภัยหรือไม่ที่ธนาคารต่าง ๆ จะดำเนินการตามแผนการใช้จ่ายเงินทุน ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินปันผล และการใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากการตั้งสำรองหนี้เสีย
การทดสอบดังกล่าวได้รับการออกแบบขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินภาษีของประชาชนมาอุ้มธนาคารต่าง ๆ เหมือนในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2550-2552
คำฟ้องที่มีการยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ระบุว่า การที่เฟดดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤตด้วยการประเมินการปรับตัวของธนาคารต่อสมมติฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ และการที่เฟดกำหนดระดับเงินทุนที่ธนาคารต้องถือครอง ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนที่เหมาะสม
ทั้งนี้ โจทก์ที่ยื่นฟ้องเฟดได้แก่ ธนาคารเจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์ รวมทั้ง สถาบันนโยบายธนาคาร, หอการค้าสหรัฐ และสมาคมธนาคารอเมริกัน
โจทก์เรียกร้องให้เฟดสร้างความโปร่งใส ด้วยการเปิดเผยแบบจำลองและรายละเอียดเกี่ยวกับฉากทัศน์ที่เฟดใช้ในการประเมินความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร และรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคสาธารณะ
ภาคธนาคารของสหรัฐได้ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลในวันนี้ แม้ว่าเฟดประกาศวานนี้ว่า เฟดมีแผนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทดสอบภาวะวิกฤตในปี 2568