ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่จัดทำโดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.5% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ (23-24 ม.ค.) ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีนับตั้งแต่ปี 2551
ผลสำรวจดังกล่าวที่จัดทำระหว่างวันที่ 15-20 ม.ค. พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ 18 จาก 19 รายเห็นตรงกันว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่ระบุว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้นำ BOJ เมื่อไม่นานมานี้เป็นปัจจัยผลักดันการคาดการณ์นี้
รายงานระบุว่า ถ้อยแถลงต่อสาธารณะของคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ และสุนทรพจน์ของเรียวโซ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการ BOJ ต่อผู้นำธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้บ่งชี้ถึงความพร้อมของ BOJ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจและราคายังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ จะหารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้น พร้อมชี้ว่า เป็นเรื่องไม่ปกติที่จะปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบ เพราะญี่ปุ่นพ้นจากภาวะเงินฝืดแล้ว
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนในผลการสำรวจระบุว่า ท่าทีดังกล่าวสะท้อนว่าอุปสรรคที่เคยขัดขวางการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้วคลี่คลายลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการหวนคืนตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงผลกระทบที่อาจมีต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจญี่ปุ่น เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการคาดการณ์นี้