ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. 2567 ในวันนี้ (29 ม.ค.) โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือกันถึงวิธีใช้การประมาณการเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง (neutral interest rate) เพื่อกำหนดแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยกรรมการคนหนึ่งกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BOJ ยังคงห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการอีกคนของ BOJ ตั้งคำถามว่า เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ที่จะใช้วิธีประมาณการโดยอิงกับข้อมูลจากช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเงินฝืดเป็นเวลานาน ในการกำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
"หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง BOJ ก็จำเป็นต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อตรวจสอบอย่างระมัดระวังว่าเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจะตอบสนองอย่างไร อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง จึงสมควรที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เหมาะสม" กรรมการคนหนึ่งกล่าว ซึ่งบ่งชี้ว่า BOJ มีช่องทางที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในวงจรปัจจุบัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การแสดงความเห็นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ากรรมการ BOJ มีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า BOJ ควรจะผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีกมากเท่าใด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% มาเกือบ 3 ปีแล้ว และการปรับขึ้นค่าจ้างก็ขยายวงกว้างขึ้นเนื่องจากภาวะขาดแคลนแรงงาน
นอกจากนี้ ในการประชุมเดือนธ.ค. กรรมการทั้ง 9 คนของ BOJ ยังเห็นพ้องที่จะให้เจ้าหน้าที่ BOJ ที่ดูแลระบบการเงินของญี่ปุ่นนั้น เข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายทั้ง 8 ครั้งที่จัดขึ้นในแต่ละปี
"การให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าร่วมการประชุมจะเป็นประโยชน์ในการติดตามผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นที่จะมีต่อระบบการเงินของญี่ปุ่น" กรรมการคนหนึ่งกล่าว
ในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค. คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0.25% โดยระบุว่าคณะกรรมการ BOJ ต้องการเวลาเพิ่มเติมในการประเมินพัฒนาการของค่าจ้างและนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ