ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ (3 ก.พ.) โดยระบุว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 23-24 ม.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกอีก ขณะที่กรรมการบางคนเตือนถึงความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงขาขึ้น และการอ่อนค่าของเงินเยนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
การอภิปรายดังกล่าวของกรรมการ BOJ สะท้อนให้เห็นว่า มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่ BOJ จะยังคงเดินหน้าผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้ปรับตัวสูงขึ้นในหลายระยะ แม้หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันที่ 23-24 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีแล้วก็ตาม
รายงานยังแสดงให้เห็นด้วยว่า กรรมการ BOJ หลายคนระบุถึงแรงกดดันด้านราคาที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าได้กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ปรับขึ้นราคาสินค้า
"เมื่อพิจารณาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ เงินเฟ้อจึงมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น" กรรมการคนหนึ่งกล่าว พร้อมเสริมว่า BOJ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "อย่างทันท่วงทีและเป็นขั้นเป็นตอน"
ขณะที่กรรมการอีกคนหนึ่งเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก และเพื่อป้องกันไม่ให้กิจกรรมด้านการเงินมีความร้อนแรงมากเกินไป
"อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real interest rates) คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับติดลบอย่างมีนัยสำคัญ แม้หลังจาก BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% แล้วก็ตาม หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงเป็นไปตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้ BOJ ก็จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป" กรรมการ BOJ กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการประชุมระยะเวลาสองวันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2551 พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า BOJ มีความเชื่อมั่นว่าค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น จะยังคงทำให้เงินเฟ้อของญี่ปุ่นเคลื่อนไหวที่ระดับเป้าหมาย 2% ของ BOJ อย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐานจะขยายตัว 2.7% ในปีงบประมาณ 2567, 2.4% ในปีงบประมาณ 2568 และ 2.0% ในปีงบประมาณ 2569 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.5%, 1.9% และ 1.9% ตามลำดับ