นักลงทุนพากันเลื่อนคาดการณ์ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ออกไปเป็นเดือนก.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ค. และจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวของเฟดในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวย้ำว่า เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.,มิ.ย.และก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยย้ำว่า เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด