ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) เปิดเผยในวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า เอเดรียน ออร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ได้ยื่นใบลาออกอย่างกะทันหันในวันนี้ ซึ่งจะทำให้วาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปีของเขาสิ้นสุดลงก่อนกำหนด 3 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการลาออกที่น่าตกใจครั้งนี้ โดยออร์ระบุในแถลงการณ์เพียงว่า "ผมพ้นจากตำแหน่งในขณะที่อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคอยู่ในกรอบเป้าหมาย และเศรษฐกิจกำลังอยู่ในวัฏจักรฟื้นตัวหลังจากช่วงหยุดชะงักจากโรคโควิด-19 ระบบการเงินยังคงแข็งแกร่ง"
การลาออกนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งกับรัฐบาลปัจจุบันที่นำโดยพรรคชาติ (National Party) ของนายกรัฐมนตรีคริสโตเฟอร์ ลักซอน ซึ่งเคยวิจารณ์การบริหารงานของออร์ที่ปล่อยให้เงินเฟ้อพุ่งสูงหลังช่วงโควิด-19 และการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงจนทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย
นิโคลา วิลลิส รัฐมนตรีคลังแจ้งกับสื่อว่า เธอทราบมาหลายวันแล้วว่ามีการเจรจาระหว่างออร์กับคณะกรรมการ RBNZ เกี่ยวกับการลาออก แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
รองผู้ว่าการฯ คริสเตียน ฮอว์กส์บี จะรักษาการแทนจนถึงวันที่ 31 มี.ค. หลังจากนั้น วิลลิสจะแต่งตั้งผู้รักษาการวาระไม่เกิน 6 เดือนระหว่างการสรรหาผู้ว่าการฯ คนใหม่
การลาออกของออร์เกิดขึ้นในช่วงที่ RBNZ กำลังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติของนักการธนาคารกลางและนักวิชาการเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีของการใช้นโยบายกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ
ภายใต้การนำของออร์ RBNZ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดที่ 0.25% สู่ระดับสูงถึง 5.50% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2534 เมื่อไม่รวมช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19
ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ออร์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% เหลือ 3.5% และส่งสัญญาณจะลดลงอีก 0.25% ในเดือนเม.ย.และพ.ค.
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ตอบสนองต่อข่าวการลาออกเพียงเล็กน้อย โดยอ่อนค่าลงมาที่ 0.5652 ดอลลาร์สหรัฐ