นีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิสกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) ว่า ความไม่แน่นอนอย่างรุนแรงเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ทำให้เขารู้สึกกังวลว่า อาจเกิดการปลดพนักงานจำนวนมาก แม้ในตอนนี้เขาจะยังได้ยินแค่เพียงว่า ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มวางแผนรับมือ หากความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่
แคชแครีกล่าวที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตาว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ คือการแก้ไขข้อพิพาททางการค้ากับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยลดความไม่แน่นอนอย่างมากที่ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก และประชาชนทั่วประเทศกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
ก่อนหน้านี้ แคชแครีแสดงความเห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยรวม
แม้แคชแครีมองว่า โดยปกติแล้วการขึ้นภาษีศุลกากรเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทำให้เงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวรุนแรง แต่สถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้เฟดไม่อาจมองข้ามความเสี่ยงนี้ได้
นอกจากนี้ แคชแครียังชี้ว่า ภาษีศุลกากรมีแนวโน้มที่จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงด้วย สถานการณ์เช่นนี้สร้างความตึงเครียดให้กับเฟด เพราะเฟดไม่สามารถสู้กับทั้งภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กันได้