ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก GfK และสถาบันนูเรมเบิร์กเพื่อการตัดสินใจด้านตลาด (NIM) ที่เผยแพร่ในวันนี้ (29 เม.ย.) ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวเยอรมนีมีทีท่ากระเตื้องขึ้นก่อนย่างเข้าสู่เดือนพ.ค. ด้วยความหวังในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ดูเหมือนจะช่วยคลายความกังวลให้กับภาคครัวเรือนลงได้บ้าง อันเป็นการลดทอนความไม่แน่นอนอันเกิดจากความตึงเครียดในเรื่องกำแพงภาษีนำเข้าที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -20.6 จุด จาก -24.3 จุดในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงเป็น -26.0 จุด
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 3-14 เม.ย. 2568
รอล์ฟ เบอร์เคิล นักวิเคราะห์จาก NIM กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เริ่มจากการประกาศขึ้นภาษีอย่างมากก่อนเริ่มการสำรวจเมื่อต้นเดือนเม.ย.นั้น ดูเหมือนจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีอย่างชัดเจนในตอนนี้
เบอร์เคิลกล่าวเสริมว่า เห็นได้ชัดว่า สิ่งสำคัญยิ่งกว่าสำหรับผู้บริโภคชาวเยอรมนีในยามนี้คือการเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่า ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยม จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 6 พ.ค.นี้ เพื่อนำคณะรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ โดยมีภารกิจสำคัญในการกอบกู้เศรษฐกิจเยอรมนีที่กำลังเผชิญปัญหา ให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ แม้ว่าความขัดแย้งในเรื่องภาษีนำเข้าจะกลายเป็นอุปสรรคระลอกใหม่ต่อภาคอุตสาหกรรมส่งออกของประเทศก็ตาม
สำหรับตัวชี้วัดความเต็มใจในการซื้ออยู่ที่ -4.9 ในเดือนเม.ย. 2568 เพิ่มขึ้นจากระดับ -8.2 ในเดือนมี.ค. 2568 โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงความแตกต่างระหว่างคำตอบเชิงบวกและเชิงลบต่อคำถามที่ว่า "คุณคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อของชิ้นใหญ่หรือไม่"
ส่วนดัชนีความคาดหวังด้านรายได้อยู่ที่ 4.3 ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ -3.1 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีดังกล่าวสะท้อนถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานะทางการเงินของครัวเรือนในอีก 12 เดือนข้างหน้า
สำหรับดัชนีความคาดหวังวัฏจักรธุรกิจอยู่ที่ 7.2 ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.9 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงการประเมินของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปในอีก 12 เดือนข้างหน้า