การส่งออกในเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.61 พันล้านริงกิต (790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 4.5% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 6.073 หมื่นล้านริงกิต (1.836 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งนับเป็นเดือนที่มีการส่งออกมากที่สุดในปี 2556 โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปยังจีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและไทย
กระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกได้รับแรงหนุนหลักๆจากการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะวงจรรวมอิเลกทรอนิกส์
ด้านการนำเข้าในเดือนก.ค.ก็เพิ่มขึ้น 6.2% แตะ 5.787 หมื่นล้านริงกิต (1.750 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยส่งผลให้การค้ามีมูลค่าทั้งสิ้น 1.1859 แสนล้านริงกิต (3.586 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. 2555
เมื่อช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าโดยรวมของมาเลเซียอยู่ที่ 7.6964 แสนล้านริงกิต (2.3273 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดส่งออกลดลง 2.6% แตะ 3.9854 แสนล้านริงกิต (1.2051 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 4.6% แตะ 3.711 แสนล้านริงกิต (1.1222 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
มาเลเซียมียอดเกินดุลการค้าที่ 2.744 หมื่นล้านริงกิต (8.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2556 ลดลงครึ่งหนึ่งจากระดับ 5.47 หมื่นล้านริงกิต (1.654 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ การส่งออกของมาเลเซียเผชิญปัจจัยถ่วงจากอุปสงค์ในต่างประเทศ่อ่อนแรงลง จนทำให้ยอดส่งออกหดตัวลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.พ. และได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะมีความแข็งแกร่งก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน