ปัจจัยที่ทำให้สหรัฐมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงในไตรมาสที่ 2 นั้น มาจากยอดขาดดุลการค้าสินค้าที่ร่วงลงถึง 2.1% มาอยู่ที่ระดับ 1.7565 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2553
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 คิดเป็นสัดส่วนราว 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ส่วนจีดีพีที่แท้จริงไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัว 2.5% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.2% เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่บริษัทเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง
อย่างไรก็ตาม แม้จีดีพีของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดี แต่ตลาดการเงินก็เริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐอีกครั้ง หลังจากนายจาค็อบ ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาเตือนว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางสหรัฐจะพุ่งแตะเพดานสูงสุดที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางเดือนต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐสภาเพิ่มอำนาจการกู้ยืมเงินของรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหมาะสม