การส่งออกที่ลดลงดังกล่าวส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าลดลงแตะ 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับ 2.852 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. และคิดเป็นการหดตัวลง 44.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายเจิ้ง หยูเซิง โฆษกสำนักงานศุลกากรกล่าวว่า เมื่อพิจารณาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปริมาณการค้าต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนก.ย. ซึ่งชะลอลงหลังจากพุ่งขึ้น 7.1% ในเดือนส.ค.และ 7.8% ในเดือนก.ค.
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกและการนำเข้าขยายตัว 7.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.694 แสนล้านดอลลาร์
การค้ากับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ลดลง 0.8% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากหดตัวลง 3.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556
ส่วนการค้ากับสหรัฐ ซึ่งถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของจีนนั้น ขยายตัว 6.7% ในช่วง 9 เดือนแรก ขณะที่การค้ากับประเทศสมาชิกประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) พุ่งขึ้น 11.6%
ทั้งนี้ การค้าระหว่างจีนและญี่ปุ่นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่การส่งออกของจีนไปยังญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี โดยพลิกฟื้นขึ้นหลังจากที่มีแนวโน้มขาลงมานับตั้งแต่เดือนก.ค.2555