ยอดนำเข้าเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 26.1% เทียบเป็นรายปี แตะที่ 7.1952 ล้านล้านเยน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 เนื่องจากยอดนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 67.8% และยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้น 39.4% โดยในเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น ยอดการนำเข้าขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553
ส่วนยอดส่งออกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 18.6% แตะที่ 6.1045 ล้านล้านเยน ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2553 และขยายตัวติดต่อกันเป็นเวลา 8 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกยังคงขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่ายอดนำเข้า
การส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 21.3% แตะ 1.1479 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 22% แตะที่ 1.6543 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนในเดือนต.ค.เป็นมูลค่า 5.064 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 26.4% แตะที่ 1.1641 ล้านล้านเยน และการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 16.2% แตะที่ 5.869 แสนล้านเยน ส่วนยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้น 27% แตะที่ 6.466 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าจากอียูเพิ่มขึ้น 15.4% แตะที่ 6.669 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน