กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐในเดือนก.ค.-ก.ย. ลดลง 1.8% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 9.48 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2552
ยอดขาดดุลไตรมาส 3 ลดลงจากระดับ 9.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่นักลงทุนต่างชาติได้รับจากการลงทุนในสหรัฐนั้นลดลง
ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.6 พันล้านดอลลาร์ แตะ 1.207 แสนล้านดอลลาร์ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐโดยภาคเอกชนต่างชาติเพิ่มขึ้น 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หลังจากลดลง 6.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ด้านรัฐบาลต่างประเทศซึ่งลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในไตรมาส 2 ก็กลับมาซื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะเป็นการซื้อเพิ่มเพียงเล็กน้อย
ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐคิดเป็น 2.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาส 3 ซึ่งห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.5% ในไตรมาส 4 ของปี 2548