สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงผิดคาดในเดือนธ.ค.

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.ลงลงเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน และเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. ผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดสั่งซื้อเดือนพ.ย.ถูกปรับทบทวนลงจากรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าเพิ่มขึ้น 3.4%

รายงานระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดสั่งซื้อลดลงในเดือนที่แล้วนั้นมาจากยอดจองรถ เครื่องบินพลเรือน และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ลดลง

หากไม่รวมสินค้าหมวดขนส่งซึ่งมีความผันผวนสูง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.

สำหรับยอดสั่งซื้อสินค้าทุนนอกภาคกลาโหมซึ่งไม่รวมอากาศยาน หรือที่เรียกว่าสินค้าทุนหลัก ปรับตัวลง 1.3% ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่สองในรอบสามเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย. โดยยอดสั่งซื้อในหมวดนี้ถูกจับตาในฐานะที่เป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายในอุปกรณ์เช่น คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะท้อนการลงทุนทางธุรกิจในอนาคต

ส่วนการจัดส่งสินค้าทุนหลัก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้คำนวณจีดีพี ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก่อนหน้า

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจและผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง แม้มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนท้ายๆของปี 2556 ก็ตาม โดยข้อมูลนี้อาจนำไปสู่การลดการคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4/2556

ยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ร่วงลง 17.5% ในเดือนธ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 21.1% ในเดือนก่อนหน้า แม้โบอิ้งเผยว่าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 319 ลำในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 110 ลำในเดือนพ.ย.

ขณะที่ยอดสั่งซื้อยานยนต์ลดลง 5.8% ยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ร่วง 7.8%

ทั้งนี้ สินค้าคงทนคือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี ไล่ตั้งแต่เครื่องปิ้งขนมปังไปจนถึงสินค้าที่มีราคาแพงมากอย่างอากาศยาน