ตัวเลขที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงการขยายตัว โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีเดือนก.พ.จะลดลงมาอยู่ที่ 9 หลังจากที่ตัวเลขเดือนม.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2555
ดัชนีย่อยมีทั้งที่ปรับตัวขึ้นและลง โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ดิ่งลงสู่ระดับ -0.21 ในเดือนนี้ จาก 10.98 ในเดือนม.ค. ดัชนีการขนส่งสินค้าร่วงลงแตะ 2.13 จากระดับ 15.52 ดัชนีการจ้างงานขยับลงเล็กน้อยสู่ระดับ 11.25 จาก 12.20
ดัชนีราคาจ่ายลดลงแตะ 25.00 จาก 36.59 ขณะที่ราคารับขยับขึ้นแตะ 15.00 จาก 13.41
อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า แม้ดัชนีย่อยที่บ่งชี้ถึงกิจกรรมการผลิตในปัจจุบันปรับตัวลงหลายตัว แต่ดัชนีสำหรับแนวโน้มทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้ายังสะท้อนให้เห็นว่าถึงมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกเกี่ยวกับสภาพธุรกิจในอนาคต
ดัชนีการคาดการณ์สภาวะธุรกิจสำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 38.99 ในเดือนก.พ. จาก 37.51 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ดัชนีการคาดการณ์ของลูกจ้างเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 25.00 ในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งแตะ 20.73 ในเดือนม.ค. จาก 9.64 ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ภาคการผลิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของเศรษฐกิจสหรัฐ และประมาณ 6% ของนิวยอร์ก
นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนจับตารายงานผลสำรวจภาคการผลิตของเฟด โดยเฉพาะในเขตนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่อาจบ่งชี้ถึงดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)