นายอาดี ลูมัคโซโน รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติด้านสถิติการผลิตกล่าวว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียเดือนม.ค.หดตัว 5.7% จากปีก่อน สู่ระดับ 1.448 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลง 3.46% สู่ระดับ 1.492 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
"ดุลการค้าของเราได้รับผลกระทบจากการขาดดุล 430.6 ล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. แต่ในแง่ปริมาณเพิ่มขึ้น" นายลูมัคโซโนเปิดเผยในการแถลงต่อสื่อมวลชน ณ สำนักงานใหญ่สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเกินดุลการค้า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ตามด้วยการเกินดุล 776.8 ล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. และ 1.52 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติเผยว่า อินโดนีเซียขาดดุลการค้าเป็นเพราะการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลง มากกว่าเป็นเพราะการห้ามส่งออกตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.
นายลูมัคโซโนกล่าวว่า อินโดนีเซียขาดดุลการค้าผลิตภัณฑ์น้ำมัน 2.04 พันล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. จากการที่อินโดนีเซียนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นมูลค่า 2.339 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ส่งออกไปต่างประเทศเพียง 293.8 ล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
อินโดนีเซียเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันสุทธิ และจัดสรรเงินอุดหนุนด้านน้ำมันจำนวนมาก ขณะที่บ่อน้ำมันที่เก่าและการขาดการลงทุนใหม่ๆ ส่งผลให้ไม่สามารถเดินหน้าผลักดันการผลิตน้ำมันที่กำลังมีปริมาณลดลงได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน