กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และนับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดติดต่อกันนานถึง 4 เดือน เนื่องจากความต้องการพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และเงินเยนที่อ่อนค่าได้ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนม.ค.อยู่ที่ 1.589 ล้านล้านเยน ซึ่งบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นมีความสามารถลดน้อยลงในการทำรายได้จากต่างประเทศ
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดนำเข้าเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 7.862 แสนล้านเยน เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 16.7% แตะที่ 5.5167 ล้านล้านเยน เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยน
ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เงินเยนอ่อนค่าลง 16.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ 103.94 เยนต่อดอลลาร์โดยเฉลี่ย และอ่อนค่าลง 19.4% เมื่อเทียบกับยูโร แตะที่ 141.50 เยนต่อยูโร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน