NFIB เปิดเผยว่า ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้น 2 จุด สู่ระดับ 93.4 ในเดือนมี.ค. หลังจากสภาพอากาศที่รุนแรงได้ฉุดให้ดัชนีร่วงลงแตะ 91.4 ในเดือนก.พ. จากระดับ 94.1 ในเดือนม.ค.
ดัชนีย่อย 6 ใน 10 ดัชนีปรับตัวขึ้นในเดือนที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง 2 ดัชนี และลดลง 2 ดัชนี โดยดัชนีย่อยที่แตะระดับสูงสุด คือ แผนการลงทุน ซึ่งแตะที่ระดับ 24% ขณะที่ดัชนีย่อยที่แตะระดับต่ำสุดคือ แนวโน้มผลกำไร ซึ่งอยู่ที่ -24%
อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็กดีดตัวขึ้นในเดือนที่แล้ว แต่รายงานระบุว่า ในช่วงฟื้นตัวนั้น ดัชนีควรอยู่เหนือระดับ 100 นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้ว ดัชนีย่อยต่างๆในเดือนมี.ค.จะดีกว่าเดือนก.พ.
สัดส่วนของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นนั้น ดีดตัวขึ้น 9 จุด สู่ระดับ 12%
สัดส่วนของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่มองว่าสภาพเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ขยับขึ้น 1 จุด สู่ระดับ -18% และสัดส่วนของเจ้าของธุรกิจที่มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลกำไร เพิ่มขึ้น 3 จุด สู่ระดับ -24%
อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่วางแผนว่าจะเพิ่มการจ้างงานลดลงอีก 2 จุด แตะ 5% ในเดือนมี.ค. หลังร่วงลง 5 จุดในเดือนก.พ.
ข้อมูลจาก NFIB เผยให้เห็นว่า เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจ้างคนงานเพิ่มโดยเฉลี่ย 0.18 คนต่อ 1 บริษัทในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ตัวเลขดังกล่าวเป็นบวก
"ภาพรวมด้านการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลง" รายงานระบุ
นอกจากนี้ อัตราส่วนของเจ้าของธุรกิจที่ขึ้นราคาขายนั้นเพิ่มขึ้น 8 จุด มาอยู่ที่ 9%
ทั้งนี้ บริษัทขนาดเล็กคือบริษัทที่มีลูกจ้างไม่ถึง 50 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ โดยนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการจ้างงานถึงครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศ