กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 9.535 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2552 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.6%
สำหรับตัวเลขการใช้จ่ายด้านก่อสร้างในเดือนมี.ค.มีการปรับเพิ่มเป็นขยายตัว 0.6% จากเดิมที่รายงานไว้ว่าเพิ่มขึ้น 0.2%
ในโครงการของภาคเอกชนนั้น การใช้จ่ายในด้านการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.1% แต่ในการก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยลดลง 0.1%
ส่วนการใช้จ่ายในด้านการก่อสร้างของภาครัฐบาลในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% โดยการใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นต่างก็ปรับตัวแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ แม้ว่าการใช้จ่ายด้านก่อสร้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งได้ส่งสัญญาณถึงภาวะชะลอตัวนับแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว เนื่องจากราคาบ้านได้พุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่สต็อกบ้านมีจำนวนจำกัด นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่สูงขึ้นก็เป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งความต้องการซื้อบ้าน