อย่างไรก็ตาม ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในภาวะเกินดุลเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องดุลการท่องเที่ยว ซึ่งเปรียบเทียบยอดการใช้จ่ายของผู้ที่เดินทางไปยังญี่ปุ่นกับการใช้จ่ายของชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปยังต่างประเทศนั้น ได้พลิกกลับมาเกินดุลเป็นครั้งแรกในรอบราว 44 ปี
นอกจากนี้ รายงานของกระทรวงยังระบุว่า ยอดการนำเข้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.6% แตะที่ 6.760 ล้านล้านเยน เพราะได้แรงหนุนจากยอดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้น 6.2% แตะที่ 5.9796 ล้านล้านเยน เนื่องจากการส่งออกยานยนต์ขยายตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับตัวลง เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจาก 3% เป็น 8% นั้น จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภคและการผลิตภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สกัดไม่ให้การนำเข้าขยายตัวต่อไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน