สำนักงานสถิติแห่งอินโดนิเซียเปิดเผยว่า อินโดนิเซียเกินดุลการค้าทั้งสิ้น 69.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขาดดุล 1.96 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
เซอร์ยามิน หัวหน้าสำนักงานสถิติเปิดเผยว่า ยอดส่งออกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.73% แตะที่ 1.483 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. เทียบรายเดือน ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 9.23% แตะ 1.476 หมื่นล้านดอลลาร์
เขากล่าวว่า "ดุลการค้าเดือนพ.ค.มียอดเกินดุลทั้งสิ้น 69.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ"
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมน้ำมันและแก็สยังคงขาดดุล 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อินโดนิเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันและให้เงินสนับสนุนด้านน้ำมันอย่างมหาศาล ได้พยายามลดการนำเข้าเชื้อเพลิงที่ได้รับเงินสนับสนุน รวมถึง มาตรการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ และการเปลี่ยนไปใช้แก็สแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ตลอดจนส่งเสริมการส่งออก
นอกจากนี้ ในปีนี้ทางรัฐบาลและรัฐสภายังได้ปรับลดโควต้าเชื้อเพลิงที่ได้รับเงินสนับสนุน จาก 48 ล้านกิโลลิตร เป็น 46 ล้านกิโลลิตร
ทั้งนี้ อินโดนิเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกในส่วนของน้ำมันปาล์มและถ่านหินประเภทให้ความร้อน และเป็นผู้ส่งออกยางและโกโก้อันดับสามของโลก และยังมีเหมืองทองแดงใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน