ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของสหรัฐวางแผนที่จะลดการลงทุนทางธุรกิจ
รายงานของกระทรวงระบุว่า การลงทุนในภาคธุรกิจของสหรัฐประจำเดือนก.ย. ปรับตัวลดลง 1.7% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในภาคการขนส่ง ปรับตัวลง 3.7% ยอดสั่งซื้อยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ลดลง 0.1% ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรลดลง 2.8% และยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ลดลง 5.3%
การปรับตัวลดลงอย่างผิดคาดของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนนั้น ส่งผลให้ตลาดการเงินวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในภาคการผลิตของสหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3% นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.ปรับตัวลงแตะระดับ 56.6 ในเดือนก.ย. จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าการคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 58.5