อย่างไรก็ตาม ดุลการค้าของญี่ปุ่นยังมียอดขาดดุลเป็นเดือนที่ 29 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนม.ค. 2522 แต่ตัวเลขขาดดุลลดลง 31.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 8.919 แสนล้านดอลลาร์
การนำเข้าปรับตัวลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการร่วงลง 2.16% ของการนำเข้าน้ำมันดิบ ขณะที่ยอดส่งออกของญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 4.9% แตะที่ 6.1889 ล้านล้านเยน เพราะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินสกุลเยน
ส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นนั้น เพิ่มขึ้น 6.8% แตะที่ 1.2083 ล้านล้านเยน แม้ว่าการนำเข้าลดลง 3.3% สู่ระดับ 6.262 แสนล้านเยน
สำหรับการส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 1.1516 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.9% แตะ 1.7484 ล้านล้านเยน โดยทั้งการส่งออกและนำเข้าต่างก็ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไปยังยุโรป ลดลง 1.3% ที่ระดับ 5.917 แสนล้านเยน ซึ่งปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.4% แตะที่ 6.82 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน