ขณะเดียวกัน ยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.37 ล้านล้านเยน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการนำเข้าก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นและสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นปรับตัวลงติดต่อกันเป็นปีที่ 4 เนื่องจากภาคสาธารณูปโภคมีความต้องการทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ขณะที่มีการสนับสนุนการผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นพลังงานทางเลือกเพื่อชดเชยการปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลังเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเมื่อเดือนมี.ค.2554
ส่วนยอดส่งออกในปี 2557 ปรับตัวขึ้น 9.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 74.12 ล้านล้านเยน ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 10.3% แตะที่ 84.49 ล้านล้านเยน