สมาคมเหล็กและแร่เหล็กของจีน (CISA) เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กดิบในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปรับตัวลง 1.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะที่ 200.1 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตเหล็กทั่วโลกอยู่เล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ราคาเหล็กกล้ายังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และสต็อกสินค้าของโรงงานผลิตเหล็กกล้ายังมีปริมาณสูง
CISA ระบุว่า โรงงานหลายแห่งยังประสบปัญหาในการดิ้นรนเพื่อผ่านพ้นวิกฤต ขณะที่ตลาดซบเซาเนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ปริมาณผลผลิตที่ลดลงยังเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลพยายามควบคุมกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว
ในเดือนมี.ค. กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้ประกาศว่า รัฐบาลจะเร่งปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและแร่เหล็กที่อยู่ในภาวะที่มีการลงทุนมากเกินไป เพื่อให้กลับมาอยู่ใน "ภาวะสมดุลโดยพื้นฐาน" อีกครั้งภายในปี 2560