สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงแตะระดับ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากตัวเลขเดือนมี.ค.ที่ 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอินโดนีเซียนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย.จะอยู่ที่ 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีเนื่องจากรัฐบาลพยายามยุติการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
ส่วนยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของอินโดนีเซียอยู่ที่ 1.308 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.04% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวลง ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 0.16% เมื่อเทียบรายเดือน แตะ 1.263 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น 3.0%
อย่างไรก็ดี อินโดนีเซียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลง เนื่องจากจีนเป็นผู้ซื้อถ่านหินและแร่รายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย