ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.21 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550 โดยเป็นครั้งที่สามในรอบสี่เดือนที่ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2550
ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งขึ้น 12.8% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2550 ขณะที่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบหลายครอบครัว ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม ลดลง 17%
นอกจากนี้ กระทรวงยังรายงานว่า ตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 16.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.12 ล้านยูนิต
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านจะแตะระดับ 1.19 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. และคาดว่าการอนุญาตก่อสร้างจะแตะที่ 1.25 ล้าน
ทั้งนี้ ตัวเลขการสร้างบ้านนั้นมีความผันผวน และมีการปรับทบทวนบ่อยครั้ง โดยกระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. เป็นพุ่งขึ้น 12.3% แตะ 1.21 ล้านยูนิต จากรายงานเบื้องต้นที่เพิ่มขึ้น 9.8% แตะ 1.17 ล้านยูนิต เพราะได้รับแรงหนุนจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับหลายครอบครัว
การก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบหลายครอบครัวมีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการสร้างบ้านเดี่ยว เนื่องจากการก่อสร้างบ้านเดี่ยวคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบสองในสามของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ