เศรษฐกิจมาเลเซียซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ได้รับผลกระทบจากราคาส่งออกสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง รวมถึงการที่เงินริงกิตอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยการอ่อนค่าของสกุลเงินริงกิตนั้นส่งผลให้ยอดส่งออกที่คิดเป็นเงินดอลลาร์มีมูลค่าลดลง
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.ของมาเลเซียจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.1% เทียบรายปี ซึ่งดีดตัวขึ้นหลังจากที่เดือนต.ค.หดตัวลง 0.4%
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า มาเลเซียจะเกินดุลการค้า 1.215 หมื่นล้านริงกิตในเดือนพ.ย. ซึ่งเกือบทรงตัวจากเดือนต.ค.ที่เกินดุลการค้าราว 1.22 หมื่นล้านริงกิต