การดีดตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2014 ซึ่งขณะนั้นปรับตัวขึ้น 0.4% เช่นกัน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ไม่คาดว่าการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค.จะมีนัยสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปยังคงชะลอตัว ท่ามกลางการร่วงลงของราคาน้ำมัน และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในเศรษฐกิจโลก
ธนาคารกลางยุโรปกำลังใช้ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% ผ่านทางการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนได้อยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013