ข้อมูลทางสถิติล่าสุดเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของมาเลเซียในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.6% แตะที่ 6.135 หมื่นริงกิต (1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบรายปี อันเนื่องมาจากการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนและอเมริกาที่ขยายตัวมากขึ้น
การส่งออกที่ปรับตัวขึ้นนั้นมาจากทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าในภาคการผลิต ขณะที่การส่งออกสินค้าประเภทเหมืองแร่ลดลง และการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่หดตัวลง 45.1%
ในบรรดาคู่ค้ารายใหญ่ของมาเลเซียนั้น การส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนและอเมริกาพุ่งขึ้น ส่วนการส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 15.4% ของยอดส่งออกทั้งหมดในเดือนเม.ย.นั้น ปรับตัวลง 16.6% แตะที่ 6.75 พันล้านริงกิต (1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อันเนื่องมาจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลง โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ทำจากปาล์ม ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม LNG และแร่โลหะ
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย. ปีนี้พุ่งขึ้น 31.9% แตะที่ 9.06 พันล้านริงกิต (2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการพุ่งขึ้นเป็นเดือนที่ 222 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2540