การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) รายงานว่า กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ทั่วโลก มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 37% สู่ระดับ 1.76 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในปี 2007
รายงานการลงทุนโลกประจำปี 2016 ระบุว่า การพุ่งขึ้นของมูลค่าการควบรวมกิจการข้ามพรมแดน สู่ระดับ 7.21 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.32 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2014 เป็นปัจจัยหลักเบื้องหลังการดีดตัวขึ้นทั่วโลกของมูลค่า FDI
รายงานระบุว่าตัวเลข FDI ที่ไหลเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า สู่ระดับ 9.62 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สัดส่วนของประเทศที่พัฒนาแล้วในกระแส FDI โลกเพิ่มขึ้น 55% ในปี 2015 หลังจากที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นผู้รับหลักของกระแสเงินทุน FDI ในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาก็ได้รับ FDI สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 7.65 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2014 โดยเพิ่มขึ้น 9% จากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเอเชีย
อย่างไรก็ดี UNCTAD คาดการณ์ว่า FDI ในปีนี้จะหดตัวลง 10-15% ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเปราะบางของเศรษฐกิจโลก, ความอ่อนแอของอุปสงค์, การชะลอตัวของประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ และการดิ่งลงของกำไรของบริษัทข้ามชาติในปี 2015 แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และการเงินระดับโลก