นายสู จ้าวซี ผู้อำนวยการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2559 ของจีนจะขยายตัวราว 6.7% โดยในปี 2559 ถือเป็นปีที่เศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณถึงการมีเสถียรภาพ
นายสูกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่ใน "กรอบที่สมเหตุสมผล" และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีที่แล้วได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนไม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะทรุดตัวลงอย่างรุนแรง หรือ ฮาร์ดแลนดิ้ง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ไว้
นายสูยังกล่าวด้วยว่า การอุปโภคบริโภคมีสัดส่วนในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2559 ถึง 71% ซึ่งเพิ่มขึ้น 13% พร้อมกับคาดการณ์ว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจของจีนมากกว่า 70 ล้านล้านหยวน (10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 5 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาประเทศรายใหญ่
นอกจากนี้ นายสูยังอ้างถึงรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมีส่วนผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกราว 1.2% ในปี 2559 ขณะที่สหรัฐมีส่วนผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเพียง 0.3%