กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ตลอดปี 2559 ลดลง 0.3% จากหนึ่งปีก่อน นับเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ญี่ปุ่นยังคงเผชิญภาวะเงินฝืด แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายการเงินอย่างมหาศาลแล้วก็ตาม
ส่วนในเดือนธ.ค. ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวนนั้น ลดลง 0.2% จากปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งคือราคาพลังงานที่ลดลง สำหรับดัชนี CPI พื้นฐานลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า ดัชนี CPI รายเดือนจะพ้นจากช่วงขาลงในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่กระเตื้องขึ้นและการอ่อนค่าของเงินเยนน่าจะหนุนราคานำเข้าในญี่ปุ่นให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
สำหรับดัชนี CPI ในภาพรวม ซึ่งนับรวมราคาอาหารสด ลดลง 0.1% ในปี 2559 อย่างไรก็ตาม ดัชนี core-core CPI ซึงไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% นับเป็นการขยายตัวขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3
เมื่อปีที่แล้ว ค่าไฟลดลง 7.9% และค่าก๊าซร่วง 9.6% เป็นเหตุให้ราคาผู้บริโภคในภาพรวมปรับตัวลง ปัจจุบันญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าพลังงานคิดเป็นกว่า 90% ของความต้องการใช้พลังงานทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น นับตั้งแต่กลุ่มประเทศผู้ส่งออก (โอเปก) เห็นพ้องเรื่องการลดผลิตในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน