กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 2.18 ล้านล้านเยน (1.926 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนต.ค. ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 40 โดยมีปัจจัยหนุนได้แก่ รายได้ที่พุ่งสูงที่ญี่ปุ่นได้รับจากการลงทุนของต่างชาติ
รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังระบุว่า ยอดเกินดุลในบัญชีรายได้หลัก ซึ่งสะท้อนรายได้ที่ญี่ปุ่นได้รับจากการลงทุนของต่างชาติ ขยายตัว 31.6% เทียบรายปี สู่ระดับ 1.94 ล้านล้านเยน
อย่างไรก็ตาม ยอดเกินดุลการค้าสินค้าหดตัวลง 24.0% มาอยู่ที่ระดับ 4.302 แสนล้านเยน เนื่องจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 14.3% สู่ระดับ 6.57 ล้านล้านเยน แต่ยอดนำเข้าพุ่ง 18.5% สู่ระดับ 6.14 ล้านล้านเยน สืบเนื่องมาจากญี่ปุ่นนำเข้าพลังงานเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานในปริมาณมาก โดยนับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะเมื่อปี 2554 เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเกือบทุกแห่งยังคงหยุดดำเนินการ