กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เท่ากับที่เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE พื้นฐานรายปี อาจปรับตัวในอัตราเร็วขึ้นถึง 1.9% ในเดือนมี.ค. โดยดัชนี PCE พื้นฐานอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟดมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555
ด้านรายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกันนี้เป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้ว
รายงานระบุว่า เงินเดือนและค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการออมปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหกเดือนที่ 3.4% จากระดับ 3.2% ในเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่ารายจ่ายเป็นเดือนที่สองติดต่อกันแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกอาจขาดปัจจัยกระตุ้นการขยายตัว เพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้นคิดเป็นสัดส่วนถึงสองในสามของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และยังไม่มีสัญญาณว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย