กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลจีนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
กระทรวงการคลังจีนระบุว่า การที่รายได้ด้านการคลังของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้น สืบเนื่องมาจากรัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธุรกิจต่างๆมีผลกำไรเพิ่มขึ้นท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา จีนมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีคิดเป็นสัดส่วน 87.7% ของรายได้ด้านการคลัง มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 2.5% ซึ่งกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า เป็นผลมาจากการขยายตัวของกิจกรรมการผลิต การปรับปรุงการให้บริการ การบริโภคที่แข็งแกร่ง และการค้าต่างประเทศที่มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ จีนมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากระดับ 14.7% ของเมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 17.3% ในปีนี้ ส่วนรายได้ที่ไม่ได้มาจากการจัดเก็บภาษีลดลง 7.5% เนื่องจากรัฐบาลพยายามลดค่าบริการและค่าธรรมเนียมด้านต่างๆเพื่อบรรเทาภาระให้กับภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณสำหรับปี 2561 ลงสู่ระดับ 2.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2560 โดยเป็นการปรับลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับรัฐบาลมีรายได้ด้านการคลังเพิ่มขึ้น