ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นในเดือนเม.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 97.8 จากระดับ 101.4 ณ สิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 100.5 หลังจากที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ดัชนีประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ที่ 115.0 ลดลงจาก 121.2 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจอยู่ที่ 86.8 ลดลงจาก 88.8
ดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงในเดือนเม.ย. มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐ โดยเฉพาะการที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเก็บภาษีเหล็ก อลูมิเนียม และสินค้านำเข้าจากจีนหลายรายการ นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคเช่นกัน โดยเฟดได้ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. และเผยว่ามีแผนที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล ภาวะเงินเฟ้อ การว่างงาน อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล