กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งบดบังความหวังที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง หลังจากที่หดตัวลงในไตรมาส 1 ปีนี้
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 294,439 เยน (ประมาณ 2,680 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 12 เดือน หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.9% ในเดือนก.พ. และลดลง 0.7% ในเดือนมี.ค.
การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคปรับตัวลงในเดือนเม.ย. เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในช่วงเดือนดังกล่าวนั้น ได้ลดความต้องการในการใช้เครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ ภาคครัวเรือนยังลดการใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ อาหาร และการเดินทางพักผ่อนภายในประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นได้ปรับลดการประเมินการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน โดยระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือน "แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ" จากก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือน "ยุติการฟื้นตัวชั่วคราว"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความอ่อนแอของการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นั้น ได้บั่นทอนมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในไตรมาส 2 หลังจากที่หดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบเป็นรายปี