นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันนี้ และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูว่า สหรัฐจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิก G7 ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ จากการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากประเทศคู่ค้าอย่างสหภาพยุโรป (EU) แคนดา และเม็กซิโก ขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีขู่ว่าอาจจะไม่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมสุดยอด G7 เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาปกป้องนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ ดดยกล่าวว่าปธน.ทรัมป์จะเดินหน้าในเรื่องนี้ เพราะท่านเชื่อว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ ได้ดำเนินการตามนโยบายการค้า "America First" ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเพื่อเป็นการปกป้องความมั่นคงของชาติ
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์อาจเผชิญกับความขัดแย้งภายในประเทศ หลังจากวุฒิสมาชิกสหรัฐจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้เสนอร่างกฎหมายที่จะบีบให้ปธน.ต้องขออนุญาตจากสภาคองเกรสก่อนที่จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ นายบ็อบ คอร์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒิสภาสหรัฐระบุว่า การกล่าวอ้างถึงความมั่นคงของชาติเพื่อสร้างความชอบธรรมในการกระทำที่จะนำมาซึ่งคำถามด้านเศรษฐกิจนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรเท่านั้น และอาจทำให้ประเทศคู่แข่งของสหรัฐหันมาใช้มาตรการตอบโต้ด้วยเช่นกัน