สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเมืองขนาดใหญ่ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะที่ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากปริมาณบ้านในสต็อกมีอยู่อย่างจำกัด
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างอิงจากรายงานล่าสุดของ NAR ว่า ราคาเฉลี่ยของบ้านเดี่ยวมือสองในไตรมาส 2 ของปีนี้อยู่ที่ 269,000 ดอลลาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี และเป็นการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัตการณ์
ราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวขึ้นใน 161 เมือง หรือคิดเป็น 90% จาก 178 เมืองใหญ่ของสหรัฐในไตรมาสที่ 2 โดยเมืองซานฟรานซิสโกมีราคาบ้านเฉลี่ยทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ ตามรอยเมืองซานโฮเซเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่มีจำนวนบ้านพร้อมขายในประเทศมีน้อยก็ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดยอดขายบ้าน
นายลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR กล่าวว่า "วิกฤติอุปทานที่ดำเนินอยู่นี้ส่งผลเสียอย่างมากในไตรมาส 2 เนื่องจากจำนวนผู้ที่สนใจต้องการซื้อบ้านมีมากกว่าจำนวนบ้านพร้อมขายที่มีอยู่ในสต็อกทั้งหมดของสหรัฐอยู่มาก"