กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนส.ค. เนื่องจากต้นทุนนำเข้าพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 4.446 แสนล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากระดับ 2.319 แสนล้านเยนในเดือนก.ค.
ยอดนำเข้าในเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 15.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 7.14 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงกว่ายอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพียง 6.6% แตะที่ระดับ 6.69 ล้านล้านเยน โดยมีสาเหตุมาจากยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นในส่วนของอุปรณ์จากจีน ซึ่งใช้ในการผลิตจอแสดงผลสำหรับอุปกรณ์เทคโนโลยี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุด ที่ระดับ 1.810 แสนล้านเยน แม้ว่ายอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. แต่ญี่ปุ่นก็ยังขาดดุลการค้ากับจีนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากยอดนำเข้าโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์จากจีนปรับตัวสูงขึ้น
ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐลดลง 14.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 2 แตะที่ระดับ 4.558 แสนล้านเยน เนื่องจากการปรับตัวลงของยอดส่งออกรถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าอุตสาหกรรมหลักของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับสหภาพยุโรปทั้งสิ้น 8.74 หมื่นล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันเดือนที่ 2 เนื่องจากญี่ปุ่นนำเข้าเครื่องบินจากเยอรมนีเพิ่มขึ้น