กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ตัวเลขหนี้สินทั่วโลกได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 250% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากระดับเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ 200% ของมูลค่า GDP ขณะที่ความเสี่ยงต่อระบบการเงินได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่เดือนก่อนหน้า
ในระหว่างการประชุม IMF และธนาคารโลก ซึ่งจัดขึ้นที่บาหลี นายโทเบียส เอเดรียน ผู้อำนวยการตลาดเงินและตลาดทุนของ IMF เตือนว่า การไหลออกของเงินทุนจำนวนมหาศาลจากระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป
ผู้อำนวยการกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของ IMF ว่า หนี้ในเศรษฐกิจที่มีความสำคัญกับภาคการเงินทั่วโลกนั้น เกิดขึ้นจากรัฐบาล บริษัทและภาคครัวเรือน
ระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่กู้ยืมเงินในตลาดต่างประเทศมากขึ้น และต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการรีไฟแนนซ์หนี้ในสกุลเงินต่างประเทศด้วย นายเอเดรียนระบุ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สูงขึ้น ได้ส่งผลให้ต้นทุนการยืมเงินสำหรับตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจหรือกรอบนโยบายที่อ่อนแอกว่า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งแล้วในปีนี้ และคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับเพิ่มอีกครั้งก่อนสิ้นปี รวมถึงจะมีการเข้มงวดด้านนโยบายอีกครั้งในปีหน้า
นายเอเดรียนระบุว่า ความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้น ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นของนโยบายในหลายประเทศ และแรงกดดันในตลาดการเงินของระบบเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ผลกระทบรุนแรงขึ้น