กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดการประเมินภาพรวมของยอดใช้จ่ายภาคครัวเรือน
กระทรวงฯระบุว่า ยอดการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนหรือมากกว่านั้น ปรับตัวลดลง 1.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 271,273 เยน (2,394 ดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯยังได้ปรับลดการประเมินภาพรวมของยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือน "หยุดที่จะฟื้นตัว" หลังจากที่กระทรวงฯได้ประเมินภาพรวมในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือน "เริ่มกระเตื้องขึ้น"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงฯเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวลดลงนั้น มาจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดกระหน่ำญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงพายุไต้ฝุ่นที่ส่งผลให้สนามบินนานาชาติคันไซในเขตโอซากาต้องหยุดให้บริการชั่วคราว และแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตบนเกาะฮอกไกโด
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในเดือนก.ย.นั้น ส่งผลให้ราคาผักผลไม้และอาหารสดประเภทอื่นๆพุ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลงด้วย