ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทรงตัวในไตรมาส 4 แม้กลุ่มผู้ผลิตของญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ +19 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับในไตรมาส 3 โดยดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาส 4 อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ +16 เนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานั้น เริ่มลดน้อยลง
รายงานของ BOJ ระบุว่า โรงกลั่นน้ำมันและบริษัทเคมีภัณฑ์ของญี่ปุ่นมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจ ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรมีมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากอุปสงค์สมาร์ทโฟนในเอเชียชะลอตัวลง
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตในไตรมาส 4 ซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น อยู่ที่ระดับ +24 เพิ่มขึ้นจากระดับ +22 ในไตรมาส 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส หลังจากธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะซบเซาที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 อันเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี และเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงซึ่งส่งผลให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่เกาะฮอกไกโด
รายงานยังระบุด้วยว่า บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีทุนเรือนหุ้นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเยน (8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งในภาคการผลิตและนอกภาคการผลิตนั้น ต่างก็วางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนอีก 14.3% ในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.8% จากการสำรวจในเดือนก.ย.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า BOJ ได้ทำการสำรวจบริษัทต่างๆจำนวน 9,860 บริษัทในระหว่างวันที่ 13 พ.ย. - 23 ธ.ค. โดยในจำนวนนี้มีบริษัทที่ตอบรับการสำรวจราว 99.6%