รัฐบาลญี่ปุ่นเผยยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ยอดการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนไปยังเอเชียนั้น ร่วงลง
ญี่ปุ่นมียอดการขาดดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 7.373 แสนล้านเยน (6.6 พันล้านดอลลาร์) โดยขาดดุลการค้า 2 เดือนติดต่อกัน สำหรับในเดือนต.ค.นั้นยอดขาดดุลอยู่ที่ 4.501 แสนล้านเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นมียอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 12.5% จากปีก่อนหน้า แตะที่ระดับ 7.66 ล้านล้านเยน โดยมีการนำเข้าน้ำมันที่ยังไม่ผ่านกรรมวิธีเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด ซึ่งมีราคาสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก ขณะที่ยอดการส่งออกนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แตะที่ 6.93 ล้านล้านเยน ท่ามกลางการชะลอตัวลงของอุปสงค์สมาร์ทโฟนในเอเชีย
เมื่อพิจารณาในภูมิภาค พบว่า การขาดดุลของญี่ปุ่นกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอย่างจีนนั้น เพิ่มขึ้นแตะ 5.031 แสนล้านเยนเนื่องจากยอดการนำเข้าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและสมาร์ทโฟนของญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ 6.234 แสนล้านเยน แม้ว่ายอดการนำเข้าสินค้า เช่น ข้าวโพดที่ใช้เป็นอาหารสัตว์จะแซงหน้ายอดการส่งออกเครื่องยนต์เครื่องบิน นอกจากนี้ยอดการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังสหรัฐก็ร่วงลงเช่นกัน
เมื่อเทียบกับสหภาพยุโรป (EU) พบว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแตะ 1.382 แสนล้านเยน เป็นผลมาจากยอดการนำเข้ารถยนต์จากเยอรมนีและยาจากไอร์แลนด์ที่สูงขึ้น