นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า ตลาดหุ้นมีปฏิกริยามากเกินไปต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
"ผมคิดว่าตลาดผิดหวังต่อถ้อยแถลงของประธานเฟด" นายมนูชินกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ โดยอ้างถึงกรณีที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า
ทั้งนี้ นายมนูชินได้เรียกร้องให้ตลาดทำความเข้าใจกับมุมมองดังกล่าว โดยกล่าวว่า นักลงทุนควรตระหนักถึงความคิดเห็นที่แตกต่างในหมู่เจ้าหน้าที่เฟด พร้อมระบุว่า เฟดพึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจในการพิจารณาเรื่องนโยบายการเงิน
ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลยในปีหน้า
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5%
ทางด้านนายพาวเวลได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการเฟดเมื่อวันพุธว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีที่เฟดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า "แม้เศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มที่สดใสและเราก็คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงมีการขยายตัวได้ดี แต่เราก็มองเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับที่เราได้คาดการณ์ไว้ในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้"
"มีความเป็นไปได้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับที่สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า" นายพาวเวลกล่าว