เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้รับความเสียหายอย่างน้อย 6 พันล้านดอลลาร์ ในระหว่างการปิดหน่วยงานรัฐบาลส่วนหรือภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าจำนวนตัวเลขงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นระหว่างพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก มูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ยื่นข้อเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านความเห็นชอบ จนนำมาซึ่งวิกฤตทางตันของกฎหมายงบประมาณสหรัฐ
การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางส่วนระยะเวลา 35 วันได้สิ้นสุดลงชั่วคราวหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในกฎหมายงบประมาณเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้หน่วยงานรัฐกลับมาเปิดทำการได้จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ และยังขยายเวลาให้กับพรรคการเมืองในการบรรลุข้อตกลงในประเด็นงบประมาณการก่อสร้างกำแพงบริเวณพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
สำหรับภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดครั้งนี้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐ เนื่องจากภาวะชัตดาวน์ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตจากเจ้าพนักงานและแรงงานที่ถูกสั่งพักงานเป็นการชั่วคราว ตลอดจนสูญเสียรายได้ทางภาษีและอีกมาก
แมรี คัลลาฮาน เออร์โดส ผู้บริหารเจพีมอร์แกน แอสเซท แอนด์ เวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ภาระชัตดาวน์ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสัปดาห์ละ 1.5 พันล้านดอลลาร์เมื่อพิจารณาในแง่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกน ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 1.75% จากระดับ 2% เนื่องจากภาวะชัตดาวน์ แต่คาดว่าตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจอาจปรับตัวขึ้นหลังจากหน่วยงานรัฐบาลกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง