นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกราว 0.5% ภายในปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 4.55 แสนล้านดอลลาร์
"มีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าในขณะนี้ โดยมาตรการเก็บภาษีจากสหรัฐและจีนจะลดการลงทุน, ประสิทธิภาพการผลิต และการขยายตัว โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีต่อเม็กซิโกที่สหรัฐจะนำมาใช้ในสัปดาห์หน้าก็ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตก" นางลาการ์ดกล่าว
นางลาการ์ดยังระบุว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า สหรัฐ จีน และเศรษฐกิจโลก เป็นผู้ที่เสียหายจากความตึงเครียดทางการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้
อย่างไรก็ดี IMF เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวมากขึ้นในปีหน้า จากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆได้หันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งทำให้มีการฟื้นตัวของกระแสเงินทุน และทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.6% ในปีหน้า จาก 3.3% ในปีนี้
ขณะเดียวกัน IMF ก็ได้เตือนว่า การฟื้นตัวอาจตามมาด้วยความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าอาจมีความรุนแรงขึ้น และอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง