กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากทรงตัวในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.
ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีกพื้นฐาน โดยไม่รวมหมวดรถยนต์ ซึ่งใช้ในการคำนวณตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
สำหรับสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย.
ส่วนยอดขายสินค้าในภาคธุรกิจลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนมี.ค. และจากยอดขายในเดือนเม.ย. เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.39 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.38 เดือนในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่การลดลงของสต็อกสินค้าคงคลัง บ่งชี้ถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อยอดขายในอนาคต